top of page

เรื่องเล่าชาวเรือ ตอนที่ 4 เรื่องเล่าของลูปิน

Updated: Sep 14, 2022



Treatment เรื่องเล่าชาวเรือ

ตอนที่ 4 เรื่องเล่าของลูปิน


 

The Story

เรื่องเล่าชาวเรือ ตอนที่ 4 เรื่องเล่าของลูปิน

เรื่องเล่าชาวเรือ เป็นซีรีส์รวมเรื่องเล่าของเหล่าชาวเรือแปลกหน้าที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ณ บาร์เหล้าในเมืองท่าของเกาะเเห่งหนึ่ง มีชาวเรือทั้งหมด 12 คน เเละบาร์เทนเดอร์เจ้าของร้าน เมื่อเหล้าเข้าปาก คนเเปลกหน้าก็กลายเป็นสหายได้ ทุกคนในร้านล้วนเเล้วเเต่มีเรื่องเล่าเป็นของตัวเอง ต่างคน ต่างที่มา ต่างการผจญภัย เเต่เมื่อชาวเรือมารวมตัวกัน เรื่องเล่าของชาวเรือจึงเริ่มต้นขึ้น

ตอนที่ 4 เรื่องเล่าของลูปิน เป็นเรื่องราวของลูปิน มาร์คัส ชายหนุ่มนักดนตรีประจำเรืออับปาง ผู้สร้างเสียงเพลงให้กับเหล่ากะลาสีโชคร้ายที่ไม่รู้ตัวเลยว่าเมื่อได้สดับฟังเสียงดนตรีของเขาเเล้ว มันจะนำมาซึ่งโชคร้าย


 

Story Flow

เรื่องเล่าชาวเรือ ดำเนินเรื่องลักษณะตามลำดับการเล่าเรื่องของตัวละคร (ชื่อตอน)

  1. เรื่องเล่าของมาเวอร์ริค

  2. เรื่องเล่าของเอไลจาห์

  3. เรื่องเล่าของโอไรออน

  4. เรื่องเล่าของลูปิน

  5. เรื่องเล่าของกิลด์เบิร์ต ทอโตเรส

  6. เรื่องเล่าของเกลเลิร์ต

  7. เรื่องเล่าของแดเนียล

  8. เรื่องเล่าของซามูเอล

  9. เรื่องเล่าของรีเอล

  10. เรื่องเล่าของเจฟฟี่ มิเดลตัน

  11. เรื่องเล่าของแม็กนัส อาร์คัส

  12. เรื่องเล่าของซาร่า

  13. เรื่องเล่าของบาร์เทนเดอร์นิรนาม

เรื่องย่อ ตอนที่ 4 เรื่องเล่าของลูปิน

ตั้งเเต่เด็ก ลูปิน ใฝ่ฝันอยากเป็นนักดนตรีมาเเต่ไหนเเต่ไร ครอบครัวของเขาเป็นนักประดิษฐ์เครื่องดนตรีที่มีชื่อเสียง ลูปินจึงคุ้นเคยกับเครื่องดนตรีมาตั้งเเต่เกิด เขามีพี่ชายหนึ่งคน พ่อกับเเม่เห็นว่าพี่มีพรสวรรค์ทางด้านดนตรีมากกว่าจึงไม่เคยใส่ใจฟังเสียงดนตรีของลูปินเลย มีเพียงพี่ชายที่มักจะมาช่วยสอนเเละช่วยฟังเพลงบรรเลงของลูปินเท่านั้น

วันหนึ่งพี่ชายของลูปินล้มป่วยอย่างไม่ทราบสาเหตุ ดนตรีของลูปินทำให้พี่ชายเขาผ่อนคลายพี่ชายจึงมักจะขอให้ลูปินเล่นดนตรีให้ฟังเสมอ เเต่อาการของพี่ก็ไม่ดีขึ้นเลย ใคร ๆ ก็บอกว่าดนตรีของลูปินเป็นคำสาปที่ทำให้ผู้ที่ได้ยินโชคร้าย พี่ชายที่สนใจฟังลูปินมากที่สุดเลยเป็นผู้เคราะห์ร้ายจากผลพวงครั้งนี้ เอดินตายขณะที่ฟังเพลงบรรเลงสุดท้ายที่ลูปินเเต่งให้เขา บทเพลงเเสนเศร้านี้ได้เเสดงเพียงครั้งเดียวในตอนที่สวดส่งวิญญาณของพี่ชายข้างรถเข็นผู้ป่วยกลางสวนกุหลาบที่ออกดอกบานสะพรั่ง

ลูปินคิดว่าตัวเองเป็นสาเหตุที่ทำให้พี่ป่วยตามข่าวลือหนาหู พ่อเเม่เองก็เชื่อเช่นนั้นเเละไม่ยอมให้ลูปินเล่นดนตรีอีกเลย เเต่พี่ชายบอกว่าไม่ใช่ ดนตรีของลูปินไพเราะที่สุดในโลก เอดินขอให้ลูปินเล่นดนตรีต่อไปแทนเขา ลูปินต้องการเป็นนักตรีตามที่พี่ชายหวังเเต่บนฝั่งไม่มีใครสนใจฟังเพลงของลูปินเลยเพราะข่าวลือเรื่องโชคร้าย

ลูปินตัดสินใจหนีออกจากบ้านเเละไปเล่นดนตรีบนเรือโจรสลัดซาร์ชา โดยมีกัปตันชื่อ ซาร์ชา เป็นชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง อัธยาศัยดี เเละเป็นโจรสลัดที่มีพวกพ้องเยอะมาก เขาเป็นคนเเรกที่เห็นถึงพรสวรรค์เเละไม่เชื่อเรื่องโชคร้าย เขาชื่นชอบเพลงของลูปินจริง ๆ จึงชวนมาเป็นนักดนตรีบนเรือ เเล้วก็ออกไปผจญภัยด้วยกัน เเต่เมื่อดนตรีของลูปินบรรเลงขึ้นลางร้ายก็ปรากฏ เรือซาร์ชาอับปาง ทุกคนตายหมดยกเว้นลูปิน ซาร์ชาเเลกชีวิตของเขาเพื่อให้ลูปินมีชีวิตเเล้วเล่นดนตรีต่อไปเพื่อเขา เพื่อจรรโลงโลกเเละปลอบประโลมจิตวิญญาณอันอ้างว้างของลูปินเอง


 

Character

ลูปิน มาร์คัส

นักดนตรีประจำเรืออับปาง ฉายา “ผู้บรรเลงบทเพลงเเห่งลางร้าย” เพราะว่าเมื่อเขาไปเป็นนักดนตรีประจำเรือไหน เรือนั้นจะต้องพบกับโชคร้ายเเละอับปางไปในที่สุด เขาเป็นชายรูปร่างผอมบางน่าถนุถนอม ผิวขาวซีดราวกับไม่เคยต้องเเดดเเผดร้อน ชายหนุ่มอายุ 26 ปี เเต่นอกจากท่าทางสุขุมของเขาเเล้ว ลักษณะภายนอกของเขาจัดว่ายังเด็กมาก เหมือนชายที่เร่ร่อนไปตามรอยต่อระหว่างความเป็นเด็กกับผู้ใหญ่ น้อยคนนักที่จะมองออกว่าเขาอายุเท่าไร นัยน์ตาของเขามักจะมีเเววครุ่นคิดตลอดเวลา ดวงตาสีหม่นของเขาจะมีประกายเจิดจ้าก็ต่อเมื่อได้บรรเลงบทเพลงที่เขารัก ทุกคนลงความเห็นว่าเขาอ่อนเเอเกินกว่าจะเป็นโจรสลัดได้ เเต่ก็ไม่เคยมีใครกล้าขับไล่เขาลงจากเรือเพราะบทเพลงของเขานั้นไพเราะจนยากจะต้านทาน เเม้มันจะนำมาซึ่งโชคร้ายของเหล่าผู้สดับฟังก็ตาม เขาเล่นดนตรีได้เเทบทุกชนิด เครื่องดนตรีที่ถนัดที่สุดคือเปียโน เเต่มีเรือโจรสลัดเพียงไม่กี่ลำที่มีเปียโน ดังนั้นเครื่องดนตรีที่เขาเล่นบ่อยที่สุดคือไวโอลิน


เอดิน มาร์คัส พี่ชายของลูปิน

พี่ชายคนเดียวของลูปิน เขาเป็นชายรูปร่างสูงโปร่งเเละมีรอยยิ้มสดใส เวลาที่เขาบรรเลงไวโอลิน รอยยิ้มอบอุ่นจะประดับใบหน้าของเขาไม่เสื่อมคลาย เขารักน้องชายมากเเละหวังดีต่อน้องเสมอ เขาเป็นที่ชื่นชอบของผู้คนมากมายทั้งผู้ที่ชื่นชอบในความสามารถเเละผู้ที่ชื่นชอบในฐานะรวมถึงหน้าตาของเขา ชายหนุ่มล้มป่วยอย่างไร้สาเหตุเเละตายไปพร้อมกับความหวังว่าน้องชายที่รักจะได้เล่นดนตรีตามความฝันของตัวเอง


นายเเละนางมาร์คัส สามีภรรยานักประดิษฐ์เครื่องดนตรี พ่อเเม่ผู้ให้กำเนิดลูปิน

พ่อเเม่ของลูปินรักพี่ชายของลูปินมากเพราะเอดินมีพรสวรรค์ทางด้านดนตรีมากกว่า พวกเขาคาดหวังให้เอดินล้างคำสาปนักประดิษฐ์เครื่องดนตรีของตระกูลเเละกลายเป็นนักดนตรีที่เก่งกาจที่สุดในเมืองเเห่งเสียงเพลงให้จงได้ พวกเขาคาดหวังในตัวลูกชายคนโตมากจึงละเลยลูปินไปโดยปริยาย ยิ่งมีข่าวลือว่าลูปินเป็นผู้บรรเลงบทเพลงแห่งลางร้าย พวกเขายิ่งไม่อยากให้ลูปินเล่นดนตรี


ซาร์ชา กัปตันเรือซาร์ชา

กัปตันเรือซาร์ชาผู้ชักชวนให้ลูปินมาเป็นนักดนตรีประจำเรือโจรสลัดเเม้ว่าเขาจะรู้ดีว่ามีข่าวลือไม่ดีเกี่ยวกับลูปิน ซาร์ชา เป็นชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง อัธยาศัยดี เเละเป็นโจรสลัดที่มีพวกพ้องเยอะมาก ซาร์ชาเหมือนเอดินพี่ชายของลูปินมาก ทั้งสองมีพวกพ้องเเละผู้ศรัทธาในตัวเขาเยอะมากเหมือนกัน เเละชื่นชอบดนตรีของลูปินเหมือนกัน


ตัวละครเหล่าโจรสลัดเเละบาร์เทนเดอร์ ณ ร้านเหล้าบนเมืองท่า

  1. มาเวอร์ริค (Maverick) พ่อครัวประจำเรือโจรสลัด ผู้ชายอายุยี่สิบกลาง ๆ (น้องเล็กสุดในร้านเหล้านี้) รูปร่างสมส่วน ผมสีบลอนด์ ใส่แว่น จิตใจดี อารมณ์ดี ค่อนข้างขี้เล่น ไม่ค่อยสู้คนเพราะคิดว่าการใช้กำลังไม่ใช่การแก้ปัญหา แต่จับพลัดจับผลูมาทำงานในหมู่โจรสลัดอันเนื่องมากจากกัปตันเคยช่วยให้เขารอดชีวิตจากการไล่ล่าของราชนาวีที่ยัดเยียดข้อหากบฏให้ครอบครัวมาเวอร์ริค ประกอบกับสายตาไม่ดีเลยถูกไล่ให้มาทำงานในครัวแทน แต่เรือโจรสลัดลำนี้ขึ้นชื่อว่า “อาหารไม่อร่อย” ใช่ มาเวอร์ริคทอดไข่ไม่เป็น

  2. เอไลจาห์ หมอประจำเรือโจรสลัด ลูกชายของตระกูลขุนนาง ตัวสูง รูปร่างสมส่วน ตาเขียวมะกอก เเละมีเส้นผมสีดำขลับ เขาอายุยี่สิบปลาย ๆ ตัดสินใจออกจากงานประจำในโรงพยาบาลใหญ่มาเป็นหมอประจำเรือสินค้าด้วยเหตุผลส่วนตัว ก่อนชะตาจะพลิกผันได้กลายเป็นหมอประจำเรือโจรสลัด

  3. โอไรออน ต้นหน ชายหนุ่มอายุ 29 ปี นัยน์ตาสีออดอาย (Odd Eye) หรือนัยน์ตาสองสีนั่นเอง ดวงตาข้างขวาสีฟ้าทะเล ส่วนข้างซ้ายสีเขียวเข้ม เขามีเส้นผมสีนํ้าเงินเข้มจนเกือบดำตัดสั้นระต้นคอ นิสัยขี้เล่น ชอบพูดคุยไปเรื่อยทั้งกับคนอื่นและพูดคนเดียว เป็นคนแปลก ๆ ที่บอกว่าตัวเองคุยกับสายลมได้ ปกติชอบพกกล้องส่องทางไกลห้อยตรงเอวไว้ตลอด

  4. กิลด์เบิร์ต ทอโตเรส ชายวัยกลางคนอายุ 40 ปีดวงตาสีดำสนิท ผิวสีแทน มีหนวดยาวเหมือนแซนต้า พร้อมรอยสักรอบตัว โดยรวมเหมือน Chris Hemsworth เวอร์ชันละติน

  5. เกลเลิร์ต (Gellert) ชายหนุ่มวัยกลางคนผมสีน้ำเงินอมเขียว ตาสีอำพัน ผิวสีแทน สูงราว 190 เซนติเมตร อุปนิสัยสุขุมผิดกับการเป็นโจรสลัด ไม่ค่อยพูดแต่มักแสดงออกผ่านการกระทำ ติดยาสูบแต่ไม่ดื่มเหล้า เขาเป็นเด็กกำพร้าที่กัปตันเรือรับมาเลี้ยง เขาเติบโตและใช้ชีวิตบนเรือมาโดยตลอด จนกระทั่งเกลเลิร์ตอายุได้ราวยี่สิบปี พ่อบุญธรรมหรือกัปตันเรือโจรสลัดก็เสนอชื่อเขาให้ขึ้นเป็นต้นหนเรือที่อายุน้อยที่สุด เขาแบกรับหน้าที่อันใหญ่หลวงไว้กับตนและไม่เคยมีครั้งไหนที่เขาคำนวนการเดินเรือผิดแม้แต่น้อย และนั่นทำให้เขาขึ้นแท่นเป็นรองกัปตันเรือควบตำแหน่งต้นหน ในช่วงวัยสามสิบต้น ๆ เกลเลิร์ตนับว่าเป็นชายหนุ่มที่เต็มไปด้วยความซื่อสัตย์ ฉลาดปราดเปรื่อง รวมถึงรับผิดชอบงานบนเรือได้เป็นอย่างดี แต่ทั้งนี้เขายังมีปมเรื่องราวในอดีตที่ไม่เคยบอกใคร

  6. แดเนียล (Daniel J. Gonzalez) ตอนเล่าเรื่องอยู่บาร์ เขาอายุประมาณ 30 ปีกว่า ๆ แต่ในเรื่องเล่าเขาอายุประมาณ 20 ปีกว่า ๆ เป็นผู้ชายร่างเล็ก ผิวค่อนข้างเข้ม มีผมสีน้ำตาลอ่อน ตาสีฟ้าทะเล หน้าตาค่อนข้างดี

  7. ซามูเอล ชายหนุ่มผมทอง ยาวประบ่า ตาฟ้า ผิวค่อนข้างขาว หน้าตาดี อายุ 32 ปี เป็นมือปืนของเรือโจรสลัด ปกติค่อนข้างขี้เกียจอู้งานบ่อย สายชิลล์รักสนุกแต่พอได้จับปืนแล้วจะเลือดร้อนง่าย

  8. รีเอล หญิงสาวอายุ 35 ปี ผมหยิกสีแดง ตาสีเขียวเข้ม และมีกระแดดที่แก้ม เดิมทีมีผิวขาวแต่เพราะเป็นโจรสลัดมานานทำให้ผิวคล้ำแดด ไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่งเพราะต้องเดินทางตามหาสมบัติบางอย่างเพื่อนำมาชุบชีวิตให้น้องสาวฝาแฝดที่ตายไป ปัจจุบันเป็นกัปตันเรือโจรสลัดโคมฟ้า รีเอลจะพกโคมไฟที่มีแสงสีฟ้าไว้กับตัวตลอดเวลา เจ้าตัวเชื่อว่ามันเป็นวิญญาณของน้องสาวที่ตายไป

  9. เจฟฟี่ กัปตันสุดหล่อ เจ้าของลักยิ้มอันมีเสน่ห์ (ไม่เคยมีใครได้เห็นรอยยิ้มนั้นนอกจากคนรักของเขา) รูปร่างภูมิฐาน ผมสีน้ำตาลอ่อนยาวประบ่า อายุ 35 ปี เจฟฟี่เป็นอดีตนาวาอากาศเอกที่เก่งที่สุดในกองทัพ แต่เขาโดนหักหลัง ถูกใส่ความว่าเป็นกบฎจนต้องระเห็จระเหินจากบ้านเมือง และกลายเป็นโจรสลัดในที่สุด

  10. แม็กนัส อาร์คัส อดีตพลเรือโทอัจฉริยะที่ผันตัวมาเป็นโจรสลัดเพราะถูกทรยศ เป็นชายหนุ่มอายุ 27 ปี ผู้มีดวงตาสีฟ้าน้ำทะเล ผิวกายสีแทน และเรือนผมสีฟ้าอ่อนยาวจรดกลางหลังที่ใช้เศษผ้ามัดไว้ลวก ๆ เขามักใส่ชุดทหารเรือเก่ากรุ ขาดวิ่น เเละไร้ซึ่งเข็มตราเกียรติยศ

  11. ซาร่า กัปตันเรือสาว นักล่าค่าหัวเเห่งเรือฟอร์จูน ผมสีเเดงเพลิง นัยน์ตาสีฟ้าน้ำทะเล อายุ 20 ปลาย ๆ ถึงจะเป็นผู้หญิงเเต่ไร้ซึ่งความปราณี ผิวขาวสะอาดตาจนไม่น่าเชื่อว่าเป็นโจรสลัด เธอมีอดีตที่เเสนขมขื่น ต้องปากกัดตีนถีบตั้งเเต่พ่อเเม่ถูกปล้นฆ่าเมื่อครั้นยังเด็ก

  12. บาร์เทนเดอร์ไร้นาม ผู้คนเรียกขานเขาเพียงแค่นาม บาร์เทนเดอร์หรือมาสเตอร์เจ้าของร้านเหล้า ร่างจำแลงเป็นชายหนุ่มเจ้าของร้านเหล้า ทว่าร่างที่แท้จริงเป็นสัตว์ร้ายในตำนาน สัตว์ประหลาดผู้สร้างภาพลวงตา เขาเนรมิตเมืองทั้งเมืองขึ้นมาบนเกาะ เพื่อล่อลวงให้เหล่านักเดินทางและโจรสลัดที่ผ่านทางมาเข้าติดกับ ไม่มีใครรู้ว่าเขามาจากไหนหรืออยู่มานานเพียงใด ตัวตนของเขาอยู่เหนือกาลเวลา ใช้ชีวิตเรื่อยมาโดยรับฟังทุกเรื่องราวความเป็นไปของโลกผ่านปากของเหล่านักเดินทางทั้งหลาย

 

Timeline

ฉากที่ 1 ณ ร้านเหล้าของเมืองท่าเเห่งหนึ่ง

โจรสลัดเเปลกหน้า 12 คนเเละบาร์เทนเดอร์ 1 คนมารวมตัวกันที่ร้านเหล้าอย่างมิได้นัดหมาย เเต่ละคนล้วนเเล้วเเต่มีเรื่องราว ความฝัน ความลับ ปมปัญหา เเละอดีตเบื้องหลังอันลึกล้ำที่ไม่เคยมีใครล่วงรู้มาก่อนเสมอ ทุกคนผลัดกันเล่าเรื่องของตัวเองโดยลูปินได้เล่าเป็นลำดับที่ 4 เมื่อเทียนเล่มที่ 3 จากเรื่องเล่าของโอไลออนดับลง เรื่องราวของลูปินก็เริ่มขึ้น


ฉากที่ 2 เมืองแห่งเสียงเพลง บ้านเกิดของลูปิน

ณ คฤหาสน์ตระกูลมาร์คัส ลูปินกำลังนั่งมองพี่ชายบรรเลงดนตรีเเสนไพเราะอยู่กลางโถงรับเเขกที่เต็มไปด้วยเหล่าชนชั้นสูง ทุกคนต่างชื่นชมเสียงไวโอลินของเอดิน โดยเฉพาะนายเเละนางมาร์คัสที่ยิ้มจนเเก้มเเทบปริเมื่อลูกชายคนโตได้กลายเป็นดาวเด่นประจำค่ำคืนนี้ ตอนนั้นลูปินเพิ่งอายุ 12 ขวบ ส่วนพี่ชายในวัย 15 ปีก็กลายเป็นอัจฉริยะทางด้านดนตรีไปเรียบร้อยเเล้ว

วันธรรมดาลูปินจะต้องเข้าไปช่วยงานพ่อกับเเม่ในการประดิษฐ์เครื่องดนตรี ส่วนพี่ชายจะต้องไปขลุกตัวอยู่ในห้องซ้อมส่วนตัว พ่อกับเเม่วางเเผนให้เอดินกู้คำสาปนักประดิษฐ์เครื่องดนตรีประจำตระกลูจึงสนับสนุนให้เอดินเล่นดนตรีได้เต็มที่ ส่วนลูปินที่ไม่มีพรสวรรค์แบบพี่ก็ถูกคาดหวังให้เป็นนักประดิษฐ์เครื่องดนตรีตามหน้าที่ของผู้รับช่วงต่อธุรกิจของครอบครัว เเต่ลูปินกับเอดินมักจะแอบเเลกหน้าที่กันเสมอ เอดินไม่อยากให้น้องชายทำงานหนักจึงลักลอบช่วยไสไม้เเละขึงเส้นลวดเครื่องดนตรีช่วยน้องเสมอ ส่วนลูปินที่เห็นพี่ชายเล่นดนตรีก็อยากเล่นให้พี่ชายฟังบ้างจึงหมั่นเรียนรู้เกี่ยวกับการเล่นดนตรีทุกชนิด ทั้งสองทำเเบบนี้ไปโดยที่ไม่ให้ทุกคนรู้จนเมื่อลูปินอายุ 18 ปี

เอดินล้มป่วยอย่างไม่ทราบสาเหตุ เขาไร้สิ้นเรี่ยวเเรง เเม้เเต่ยกนิ้วขึ้นกดเเป้นคีย์เปียโนยังทำไม่ได้ หายใจก็ลำบาก เเละเหนื่อยล้าอยู่ตลอดราวกับเเบกของหนักอยู่ตลอดเวลา เขาได้เเต่นอนอยู่บนเตียงเเละเหม่อมองไปนอกหน้าต่าง พ่อเเม่พยายามเต็มที่ให้ลูกชายหายดี ส่วนลูปินที่เห็นพี่ชายป่วยก็พยายามเต็มที่ที่จะช่วยให้พี่ชายอาการดีขึ้น แต่ไม่ว่าจะทำอย่างไรอาการของเอดินก็ไม่ดีขึ้น พ่อกับเเม่ที่ใจสลายก็ไม่กล้ามาหาลูกชายที่นอนหายใจรวยรินอยู่ข้างเตียง มีเพียงลูปินเท่านั้นที่เเอบเข้ามาเล่นดนตรีให้เอดินฟัง

ดนตรีของลูปินช่วยให้เอดินผ่อนคลายเเต่อาการของเขาไม่ดีขึ้นเลย บางครั้งเอดินป่วยขนาดที่หมอห้ามเข้าเยี่ยมเเละเขาต้องเเอบฟังเสียงของทุกคนผ่านประตูห้องนอนของพี่ชาย บ่อยครั้งเขาต้องเเอบไปเล่นดนตรีกลางสวนกุหลาบตามลำพังด้วยความคาดหวังว่าพี่ชายจะอาการดีขึ้น

เอดินขอพ่อเเม่ให้อนุญาตให้น้องเล่นดนตรี อย่างน้อยก็ให้น้องเล่นดนตรีให้เขาฟัง พ่อเเม่อนุญาตเพราะรู้ดีว่าลูปินเองก็ชื่นชอบดนตรีเช่นกัน ลูปินมีอิสระที่จะเล่นดนตรี ไม่ต้องเเอบเล่นเหมือนเเต่ก่อนเเล้ว เเต่เมื่อลูปินเล่นดนตรีให้เอดินฟัง ผู้ที่ฟังเพลงของลูปินก็พบกับโชคร้ายเล็ก ๆ น้อย ๆ ไปจนถึงเรื่องใหญ่ ๆ อย่างอุบัติเหตุจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด คราเเรกทุกคนคิดว่ามันคือความบังเอิญ เเต่ข่าวลือก็เริ่มหนาหูจนมีคำพูดปากต่อปากว่ากันว่าบทเพลงของลูปินคือคำสาป ใครที่ได้สดับเพลงของเขาจะต้องพบกับโชคร้าย พ่อเเม่ของลูปินห้ามให้ลูปินเล่นดนตรีอีกครั้งเพราะเกรงว่าชื่อเสียงตระกูลจะยิ่งเสียหาย เเต่เอดินไม่เชื่อข่าวลือเลยสักนิด ทั้งยังขอร้องพ่อเเม่ว่าให้ลูปินเล่นดนตรีให้เขาฟังคนเดียวก็ได้ อีกทั้งยังขอให้คนรับใช้ช่วยขนย้ายเปียโนเครื่องสวยมาไว้ในห้องนอนของเอดิน ลูปินจะได้มานั่งเล่นดนตรีให้เอดินฟังถนัด

วันหนึ่งที่อากาศอบอุ่น เอดินขอให้ลูปินเเต่งเพลงให้เขา เพราะการมีบทเพลงเป็นของตัวเองนับเป็นความใฝ่ฝันสูงสุดของนักดนตรี เอดินได้เเต่งไว้สามส่วนสี่ของเพลงเเล้ว เหลือเพียงส่วนสุดท้ายเท่านั้นที่อาการป่วยทำให้เขาทำมันต่อไม่สำเร็จ เขาขอให้น้องชายที่รักเเต่งเพลงนี้ให้จบ เป็นคำขอสุดท้ายของพี่ชายไม่เอาไหนที่ขอร้องให้น้องรับภาระต่อ

ลูปินไม่เคยมองว่าคำขอของพี่ชายเป็นภาระ เขาเต็มใจที่จะสานต่อเพลงของพี่ เขาใส่ทุกความรัก ความหวังดี ความสุข ความอาลัย ความปรารถนาดีที่วาดหวังให้พี่ชายหายเป็นปกติลงในเพลง รวมถึงใส่ความอาลัยที่เขาอยากมอบให้พี่ชายอย่างบริสุทธิ์ใจหากถึงวันที่พวกเขาต้องจากกัน ในวันที่เขาเเต่งเพลงสำเร็จ พี่ชายขอให้พานั่งรถเข็นออกไปฟังเพลงที่สวนกุหลาบ ไม่มีใครกล้าเข้าไปขวางทั้งสองคนเพราะเห็นไวโอลินในมือของลูปิน

บทเพลงเเสนไพเราะเริ่มบรรเลงจากจังหวะเชื่องช้าเป็นถี่เร็วชวนใจเต้นเเล้วก็กลับมาหน่วงช้าอีกครั้งตามที่เอดินตั้งใจเอาไว้ให้เป็นบทเพลงสองขั้วสื่อถึงหัวใจของพี่ชายที่มีต้องน้องชายคนเดียว ความหน่วงช้าในตอนเเรกคือความรัก ปราถนาดี ส่วนจังหวะเร็วคือความสนุกสนานเมื่อครั้งที่สองคนเล่นสลับหน้าที่กัน เเละจังหวะในตอนท้ายที่ลูปินเเต่งก็ยิ่งหน่วงช้าจนเเทบหยุดหายใจ มันทั้งงามเเละเศร้า เป็นความในใจที่ลูปินมีต่อพี่ชายสุดที่รัก เป็นคำอำลาเเสนโศกที่เขาทั้งอยากเล่นมันเเละไม่อยากเล่น ทะเลาะตบตีกันอยู่ในทุกตัวโน้ตเเสนเศร้า เมื่อลูปินสีโน้ตตัวสุดท้ายจบ ลมหายใจรวยรินของพี่ชายก็ขาดห้วงไปด้วย

ลูปินรีบคุกเข่าลงตรงหน้าพี่ชายเพื่อตรวจสอบอาการ ขณะที่เขากำลังจะเรียกคนรับใช้ให้ไปตามหมอ เอดินก็เอื้อมมือไปคว้ามือของน้องชายอย่างถนุถนอมเเล้วกระซิบถ่อยคำยินดีทั้งน้ำตา

“พี่ชอบเพลงนี้ที่สุดเลย ขอบใจนะ” เอดินเอ่ยต่อพร้อมกับเอื้อมมือไปซับน้ำตาอุ่นของน้องชาย “พี่อยากให้เจ้าเล่นดนตรีต่อไปนะลูปิน น่าเสียดายที่พี่อยู่ฟังมันนานกว่านี้อีกหน่อยไม่ได้ ยกโทษให้พี่ด้วยนะน้องรัก” เเล้วเอดินก็จากไป

ลูปินเสียใจกับการจากไปของเอดินเป็นอย่างมาก มันยิ่งตอกย้ำว่าดนตรีของเขาเป็นคำสาป เเต่เเล้วถ้อยคำของพี่ก็ลอยเข้ามาในโสตประสาท พี่อยากให้เขาเล่นดนตรีต่อไป ดังนั้นหลังจากพี่ตายเเม้จะโดนทอดทิ้งเเละโดนห้ามไม่ให้เล่นดนตรีเขาก็จะเเอบไปเล่นดนตรีที่ชายหาดเสมอ เขาอยากหนีไปให้พ้นบ้านเพราะทุกคนมองว่าเขาเป็นคนฆ่าพี่ทางอ้อม เเละเเล้ววันหนึ่งเมื่อเขาอายุ 21 ปี เขาก็ได้พบกับซาร์ชา กัปตันคนหนึ่งที่ชักชวนให้เขามาเป็นนักดนตรีประจำเรือโจรสลัดโดยไม่สนใจคำลือเกี่ยวกับลูปินเลย


ฉากที่ 3 เรือซาร์ชา

ซาร์ชาเหมือนเอดินไม่มีผิด ทั้งสองชื่นชมดนตรีของลูปินไม่ต่างกัน อีกทั้งยังมีรอยยิ้มที่สดใสกับสายตาชื่นชมที่รายล้อมอยู่รอบตัวเสมอ ลูปินละทิ้งนามสกุลมาร์คัสเเล้วมุ่งออกทะเลไปเป็นนักดนตรีบนเรือโจรสลัด ออกผจญภัยไปกับซาร์ชาเเละลูกเรือหลายสิบชีวิต

ดนตรีของลูปินช่วยให้ชาวเรือมีชีวิตชีวา ทุกคนชอบเพลงของลูปินมาก ชื่อเสียงของเขาโด่งดังมากขึ้นจนวันหนึ่งลูปินเกิดคิดถึงพี่ชายมาก ขณะที่ทุกคนกำลังเคลิ้มหลับมีเพียงซาร์ชาเเละลูปินที่ยืนมองความเวิ้งว้างของทะเลยามค่ำคืน ซาร์ชาเห็นสายตาเหม่อเศร้าของลูปิน เขาเดินกลับเข้าไปในห้องพักเเล้วคว้าเอาไวโอลินตัวสวยมามอบให้ลูปิน เเค่มองปราดเดียวลูปินก็รู้ทันทีว่ามันเป็นเครื่องดนตรีจากตระกูลของเขา มองอายุเเล้วน่าจะเเก่กว่าเขาหลายสิบปี คงเป็นบรรพบุรุษคนหนึ่งประดิษฐ์มันขึ้นมา

ซาร์ชาบอกว่าเขาอยากมอบมันเป็นของขวัญครบรอบ 100 วันที่ลูปินมาเป็นพรรคพวก เขาจะได้ไม่ต้องเล่นเปียโนจากเเค่ในห้องพักหรือเล่นออร์เเกนราคาถูกอีกต่อไป ซาร์ชาอยากให้ลูปินออกมาเล่นดนตรีรับลมตรงหัวเรือนี้แทน ยิ่งเห็นไวโอลินของตระกูลเขายิ่งคิดถึงพี่ชาย เขาจึงของซาร์ชาเล่นเพลงของพี่ชาย เเละซาร์ชาก็ไม่ขัด

ซาร์ชามองเสี้ยวใบหน้าด้านข้างของลูปินขณะเล่นดนตรีหม่น เขาชื่นชอบตอนที่รอยยิ้มน้อย ๆ ของลูปินปรากฏขึ้นอย่างไม่รูู้ตัวขณะที่กำลังจมจ่อมอยู่ในห้วงดนตรีเเสนไพเราะ เเต่ทันใดนั้นเองเรือซาร์ชาก็ชนเข้ากับหมู่หินโสโครกกลางทะเล

ลูปินกำลังบรรเลงบทเพลงเเสนเศร้าอันเป็นเพลงเดียวกับตอนที่เขาใช้สวดส่งวิญญาณของพี่ชาย สถานการณ์เลวร้ายจนยากจะเเก้ได้ ลูกเรือรีบตื่นจากห้วงนิทรา เเต่ไม่ว่าจะพยายามยื้อเท่าไรเรือก็ทำท่าจะอับปางลง ขณะกำลังหมดหวังเหล่าลูกเรือโจรสลัดก็ขอให้ลูปินบรรเลงต่อไป เเม้จะเป็นช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตพวกเขาก็อยากให้ลูปินมีความสุขเเละตายไปพร้อมกับดนตรีอันเเสนไพเราะ ลูปินเล่นต่อทั้งน้ำตาเพราะอยากทำตามคำขอสุดท้ายของทุคน เขาต้องลาจากกับทุกคนเเล้วเหมือนตอนที่เขาต้องลาจากกับพี่ชาย ขณะที่ลูปินกำลังจมอยู่ในห้วงเเห่งสุนทรีย์ เรือก็เริ่มเเตกเป็นเสี่ยง ๆ ลูกเรือ กัปตันซาร์ชาคว้าตัวของลูปินเเละไวโอลินไว้ทัน เขาผลักให้ลูปินขึ้นไปบนเรือลำลอง หัวของลูปินกระเเทกกับเรือจนสติเลือนลาง ภาพสุดท้ายคือภาพรอยยิ้มทั้งน้ำตาของซาร์ชาที่เเลกชีวิตของเขาเพื่อให้ลูปินมีชีวิตเเล้วเล่นดนตรีต่อไปเพื่อเขา เพื่อจรรโลงโลกเเละปลอบประโลมจิตวิญญาณอันอ้างว้างของลูปินเอง

“ฉันเสียใจที่ได้ฟังเพลงนั้นเพียงครั้งเดียว เเต่มันก็เป็นครั้งเดียวที่มีค่าที่สุด เล่นดนตรีต่อไปนะลูปิน...ลาก่อน

เรือของลูปินลอยเคว้งอยู่กลางทะเล เขาเล่นดนตรีอยู่บนเรือลำเล็กด้วยความอาลัย ทั้งพยายามปลอบประโลมดวงวิญญาณของโจรสลัดที่ตายกลางทะเลเเละเยียวยาพวกพ้องที่ต้องสละชีวิตเพื่อเขา เขาทั้งอยากปาไวโอลินลงทะเลให้มันหาย ๆ ไปซะ เเต่ในขณะเดียวกันเขาก็กอดไวโอลินไว้เเนบอกเพราะมันคือสิ่งยึดเหนี่ยวเดียวที่เขาเเละพวกพ้องมีร่วมกัน ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจได้ว่าจะเล่นดนตรีต่อไป ไม่ใช่เพื่อตัวเขาเองเเต่เพื่อพี่ชายเเละซาร์ชาที่สละชีวิตให้เขาได้เล่นดนตรีต่อ


ฉากที่ 4 เรือลำอื่น ๆ ที่ลูปินเข้าร่วม

นับจากนั้นลูปินก็ได้รับการชักชวนให้ไปเป็นนักดนตรีประจำเรือหลายลำ เเต่เมื่อมีคนคะยันคะยอให้เขาเล่นบทเพลงนั้น เขาเเละเหล่ากะลาสีผู้โชคร้ายก็ต้องพบกับจุดจบเหมือนเดิม เรือหลายลำอับปางไปเพราะโชคร้ายจากเสียงเพลงอันไพเราะ เเต่ทุกคนก็ยอมตายอย่างเป็นสุข พวกพ้องของลูปินไม่เคยมีใครเสียใจที่ได้สดับบทเพลงเเสนงามบทนั้น เเละขอให้ลูปินยังคงเล่นดนตรีต่อไป ให้ลูปินเเบ่งปันความทุกข์ ความสุข ความโศก เเละความอาลัยของทุกคนไปพร้อมกับบทเพลงของเขา


ฉากที่ 5 ณ ร้านเหล้าของเมืองท่าเเห่งหนึ่ง

การมาเยือนบาร์เหล้า ณ เกาะเเห่งนี้เป็นการขึ้นฝั่งในรอบหลายปี เรือลำสุดท้ายที่อับปางทำให้ลมทะเลหอบพัดร่างไร้สติของลูปินมาขึ้นฝั่งที่นี่ ไวโอลินยังคงอยู่ข้างกายไม่เสื่อมคลาย พวกพ้องของเขาผูกมันเข้ากับร่างไร้สติของลูปินอย่างรีบร้อน เชือกที่ฉีดมาจากชายธงของเรือลำก่อนยังสร้างความเจ็บปวดทางใจให้กับลูปินทุกครั้งที่มอง มันยังคงเป็นปริศนาว่าทำไมลูปินถึงเป็นผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวจากโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้น

“เเล้วคุณล่ะ อยากฟังดนตรีของผมไหม” นี่เป็นคำถามสุดท้ายจากเรื่องเล่าของลูปิน เเล้วเทียนเล่มที่ 4 ก็ดับลงโดยที่ทุกคนไม่รู้ตัว…


-จบ-


 

Location

1. ร้านเหล้าบนเกาะเมืองท่า

เริ่มเรื่อง ณ ร้านเหล้าบนเกาะเมืองท่า ร้านเหล้าเเห่งนี้มีลูกค้าทั้งหมด 12 คนเเละมีบาร์เทนเดอร์เจ้าของร้าน 1 คน การตกเเต่งของร้านประดับด้วยเทียนทั้งหมด 13 เล่ม เมื่อโจรสลัดเล่าเรื่องจบเทียนที่ให้แสงสว่างภายในร้านจะดับไปทีละ 1 เล่มโดยที่ทุกคนไม่รู้ตัว จนเจ้าของร้านเป็นผู้เล่าเรื่องคนสุดท้าย เมื่อเล่าจบทุกอย่างสลายกลายเป็นเมืองร้าง


2. เมืองเเห่งเสียงเพลง บ้านเกิดของลูปิน

ลูปินเกิดเเละเติบโตที่เมืองเเห่งเสียงเพลง เมืองนี้มักจะมีบรรยากาศสนใจ ผู้คนให้ความสำคัญกับเสียงเพลง บ้านเมืองตกเเต่งด้วยตัวโน้ตเเละไม่เคยขาดเสียงเพลง บ้านของเขาเป็นตระกูลนักประดิษฐ์เครื่องดนตรีอันดับหนึ่งของเมือง บ้านของลูปินจึงเต็มไปด้วยเครื่องดนตรี ที่บ้านมีทั้งห้องทำงานของพ่อเเม่ที่เป็นห้องประดิษฐ์เครื่องดนตรี ห้องทดสอบเสียง ห้องสมุดโน้ตดนตรี เเละห้องซ้อมดนตรีพิเศษของพี่ชาย ลูปินมักไปขลุกอยู่ที่ห้องสมุด เเละชอบไปแอบเล่นดนตรีคนเดียวในสวนกุหลาบหลังบ้าน


3. เรือซาร์ชา

เรือโจรสลัดลำเเรกที่รับลูปินมาเป็นนักดนตรีบนเรือ เรือลำนี้เป็นของกัปตันชื่อซาร์ชา เรือลำใหญ่ที่มีหัวเรือเป็นรูปไซเรน เรือลำนี้มีลูกเรือหลายสิบชีวิต ทุกคนล้วนมาที่นี่เพราะเชื่อใจเเละศรัทธาในซาร์ชา ลูปินมีห้องเป็นของตัวเองเพราะทุกคนลงความเห็นว่าเขานอนบนเปลเเบบกะลาสีคนอื่นไม่ไหวเเน่ ในห้องของเขามีเปียโนตัวเก่าอยู่หนึ่งหลัง เสียงของมันจะดังไปทั่วทั้งเรือเมื่อเขาเริ่มบรรเลงเพลง ในวันครบรอบร้อยวันที่ลูปินตามซาร์ชามาเป็นโจรสลัด กัปตันมอบไวโอลินที่ปล้นมาได้ให้เขาเป็นของขวัญ หลังจากนั้นเขาก็มักจะมาสีไวโอลินที่หัวเรือตอนกลางคืนกล่อมทุกคนหลับฝันอย่างเป็นสุขเสมอ


4. เรือลำอื่น ๆ ที่ลูปินเข้าร่วม

หลังจากเรือซาร์ชาล่ม ลูปินก็ได้รับการชักชวนจากเหล่าโจรสลัดมากมาย เเม้เขาจะมีฉายาว่า “ผู้บรรเลงบทเพลงเเห่งลางร้าย” เเต่ว่าก็มีโจรสลัดหลายคนที่ไม่อาจต้านทานมนต์เสน่ห์เสียงเพลงของลูปิน เเละเรือทุกลงก็อับปางจมลงก้นทะเลไปตามระเบียบ


 

Mood&Tone

บรรยากาศโดยรวมของเรื่องเป็นสีอึมครึม เรื่องราวดำเนินไปอย่างเปลี่ยนเหงา เหมือนความเดียวดายของลูปินที่อยากทำในสิ่งที่รักเเต่มันก็ต้องเเลกกับชีวิตของคนที่รัก เหล่าผู้หวังดีที่อยากสนับสนุนให้ลูปินได้ทำตามความฝันต้องพบกับจุดจบอันมืดมิดในทะเลหนาวเหน็บ เเต่ก่อนที่จะจมสู่ก้นทะเล ทุกคนมักจะมอบรอยยิ้มอบอุ่นให้กับลูปินเเละบอกให้เขาเล่นดนตรีต่อเสมอ เป็นความหนาวซ่านอบอุ่นที่ทุกคนมอบความหวังดีให้ลูปินอย่างบริสุทธิ์เเละยอมจำนนต่อความตาย


 

The Climax

เรือซาร์ชาชนเข้ากับหมู่หินโสโครกกลางทะเล ทุกคนตายมีเพียงลูปินเท่านั้นที่รอดชีวิต

 

The Product

ซีรีส์ ความยาวตอนละ 25-30 นาที


 

ทักทายนักอ่านทุกท่าน

สวัสดีค่ะนักอ่านทุกท่าน ดันพาวนคนเดิม กลับมาเเล้วจ้า ทุกคนสบายดีกันหรือเปล่าคะ ผลงานชิ้นนี้ของเนย์คือการทดลองเขียน Treatment บทภาพยนตร์เรื่อง "เรื่องเล่าชาวเรือ" ค่ะ โจทย์ของงานชิ้นนี้คือโจรสลัด เนย์เขียนร่วมกันกับเพื่อน ๆ อีก 12 คนนะคะ เนย์ได้รับหน้าที่เขียนเรื่องเล่าของโจรสลัดคนที่ 4 เนย์เชื่อว่าเพื่อน ๆ ต้องได้อ่านเรื่องราวของน้องลูปินมาเเล้วใช่ไหมล่ะคะ เนย์อยากรู้มากเลยว่าเพื่อน ๆ มีความเห็นว่าอย่างไรกันบ้าง ถ้าเอาไปสร้างเป็นซีรีส์จริง ๆ เพื่อนอยากดูกันไหม เพื่อน ๆ สามารถเเลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับเนย์ได้น้า เนย์รู้สึกยินดีเเล้วก็ขอบคุณทุกคนมาก ๆ เลยค่ะ ไว้ถ้าหากเพื่อน ๆ ของเนย์ลงเรื่องเล่าชาวเรือของโจรสลัดคนอื่น ๆ เเล้วล่ะก็ เนย์จะไม่พลาดมาอัปเดตให้ทุกคนติดตามอย่างเเน่นอน ไว้เจอกันใหม่โอกาสหน้านะคะ สวัสดีค่ะ ^^




105 views0 comments
bottom of page